คลังเก็บบล็อก

It’s get better ??

มีโอกาสได้ไปดูหนังเกี่ยวกับกะเทยมาหนึ่งเรื่องค่ะ

ภาพยนตร์เรื่องล่าของผู้กำกับคนเก่ง กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขพิสิษฐ์ (จากเรื่อง insect in the backyard และ ฮักนะสารคาม) โดยส่วนตัวได้ชมงานก่อนหน้าแล้วรู้สึกชื่นชอบในการนำเสนอข้อมูลปัญหาชายขอบ ไม่ว่าจะเป็นของ วัยรุ่น ชายรักชาย กะเทย หรือแม้แต่ปัญหาแบบชาวบ้าน ๆ การเลือนหายของวัฒนธรรม ฯลฯ พอได้ข่าวหนังเรื่องนี้ก็กำลังรออยู่พอดีเชียว เพราะมีการแทรกประเด็นพระเข้ามา !!

เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ ป้าต่าย (ขอเรียกป้านะคะ) ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถคันเก๋ วิวสวยมากเชียวค่ะ แต่ยกฝีมือให้ช่างกล้องของเรื่องนี้นะคะ เพราะคุณซูมทุกส่วนสัดของป้าต่ายให้ทุกคนได้ล่วงรู้ถึงสังขาร แล้วอยู่ดี ๆ ป้าต่ายก็นั่งฉี่ซะงั้น

เรื่องดำเนินไปด้วยสามคู่หลัก ค่ะ คือ ป้าต่าย(สายธาร) – ปั้นจั่น(ไฟ) เบล(หลิว) – สลิ่ม(ต้นไม้) และเณรดิน – หลวงพี่แสง การตัดภาพเน้นความไม่เรียบลื่นตามเคย(เริ่มคิดว่าคงจะเป็นเทคนิคส่วนบุคคลของพี่เค้าเป็นแน่แท้) ถึงแม้ว่าจะมีการนำเสียง หรือสถานที่มาเป็นตัวเชื่อมทั้งสามคู่ก็ตามที

“เธอไม่รังเกียจเหรอ ที่ฉันเป็นกะเทย — ไม่มีใครรังเกียจกะเทยหรอก พวกเค้าแค่ไม่เข้าใจ “ เนื้อเรื่องของป้าต่าย กะเทยวัยดึก เดินทางมายังบ้านนอกด้วยเหตุผลบางอย่าง แล้วก็ได้มาพบกับนายไฟ ช่างซ่อมรถจอมเฟี้ยวแถวนั้น ทั้งคู่ผูกพันกันแบบง่าย ๆ เรียบลื่น ตามประสาผู้ชายบ้านนอก หรือที่กะเทยเรียกว่า “บ่าวบ้าน” นั้นเอง ยกคะแนนให้ป้าต่ายนะคะ ลื่นมาก แสดงเป็นกะเทยได้ดีมาก เนื้อเรื่องป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ร้านพ่อค้าชื่อตาหิน ป้าต่ายรักนายไฟ แต่เมื่อแฟนเก่านายไฟกลับมาจากเมืองกรุง นายไฟก็ทิ้งป้าต่ายอย่างง่ายดาย (ฉากนี้สะท้อนเจ็บและแรงมากค่ะ กะเทยยอมรับ)

“พ่อของผม รู้สึกรังเกียจผม ที่ผมเป็นแบบนี้ เช่นเดียวกันกับที่หลวงพี่รู้สึกอยู่ตอนนี้” เรื่องของนายดิน ที่มีอาการตุ้งติ้ง พ่อเห็นท่าไม่ดีจึงพาดินไปบวชให้แม่ และที่นั่นดินก็ได้พบกับหลวงพี่แสง กลับทำให้อาการของดินกำเริบกว่าเดิมเสียอีก แอบไปนอนที่กุฎิหลวงพี่แสงทุกคืน หลวงพี่แสงเห็นท่าไม่ดีจึงตีตนออกห่าง คู่นี้เปิดโอกาสให้จินตนาการกันได้เต็มที่ ด้วยความที่ตัวละครทั้งคู่ไม่มีการพูดอะไรออกมาโต้ง ๆ แต่เปิดโอกาสให้คนดูคิดเองเออเองเต็มที่ ก็ลองมีบทเลิฟซีนพระดูสิคะ โดนพวกโง่แบนไปเจ็ดชาติแน่นอน มีการใช้ประโยคเด็ดของหนัง(เคยใช้ในฮักนะสารคามแล้วรอบนึง) ที่ว่า “กะเทยเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดไปเอง”

“นายลองหยิกแขนตัวเองดูซิ นายเจ็บใหม —– เราก็เจ็บเป็นเหมือนกัน “ เรื่องราวของต้นไม้(สลิ่ม) ที่เดินทางมาเพื่อปิดกิจการคลับโชว์ของพ่อที่พัทยา และได้พบกับต้นหลิว กะเทยขับรถของคลับ ต้นไม้แอบชอบกะเทยตัวเอกของคลับ(ลูกปัด)แต่ก็ยังสับสนกับความรู้สึกของตนเองเพราะว่าตนเองชอบผู้หญิง แต่แล้ววันนึงด้วยความเมา ก็ได้เสียกันกับหลิวซะงั้น เมื่อตื่นมาตอนเช้าเค้าก็ไล่หลิวออกไปราวกับหมูหมา ทำให้กะเทยเจ็บเจียนตายก็ว่าได้มั้ง เป็นที่มาของเพลง “ไม่ได้ขอให้มารัก”

*** เห็นได้ว่า ทั้งสามตอนล้วนนำเสนอความผิดหวังในความรักของตัวละครเอก ไม่ว่าจะเป็น ชายรักชายก็ดี กะเทยแต่งหญิง หรือว่า กะเทยแต่งหญิงยังไม่ผ่าก็มี ล้วนแล้วแต่ต้องผิดหวังทั้งนั้น !! แต่เจ๊แกผูกปมให้แน่นกว่านั้น ตามประสาเจ๊แกนั่นแหละค่ะ ด้วยการเฉลยว่า

——————–

  • ป้าต่ายคือลูกของตาหิน ที่กลับมาเพราะอยากดูแลพ่อตัวเอง แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว ด้วยความที่ว่าตนนั้นเป็นกะเทย !!!
  • เณรดิน คือการเล่าเรื่องในวัยเด็กของป้าต่าย ที่ถูกพ่อบังคับให้ไปบวช เพื่อลบพฤติกรรมตุ้งติ้งออกไป !!!
  • สลิ่ม คือลูกของป้าต่าย !!! ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความที่ป้าต่ายกลัวว่าลูกจะรับไม่ได้ จึงตกลงกับเมียตนว่าห้ามเล่าให้ลูกฟัง !!!

———————

 

มี timeline มาให้ดูค่ะ

เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องของเด็กกะเทยคนนึงที่มีชื่อว่าดินค่ะ โดยจะมีพัฒนาการดังในรูปคือ จากเด็กชายดิน เป็นเณรดิน เป็นนายดินที่แต่งงานมีเมียมีลูก และเจ๊สายธาร แต่จะเห็นได้ว่ามีกลวิธีในการเล่าเรื่องแบบสลับไปมานะคะ คู่ที่ 1 คือคู่ของป้าต่ายกับปั้นจั่น นั้นจริง ๆ แล้วเป็นช่วงเวลาที่ 2 ส่วนคู่ที่ 2 คือคู่ เณรดินและหลวงพี่แสงเป็นอดีตของป้าต่ายในวัยเด็ก จะนับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน และคู่ที่ 3 คือ คู่ของเบลและสลิ่มนั้นเป็นเหตุการณ์ท้ายสุด

แต่จะมีการย้อนแย้งของเรื่องราวแทรกเข้ามาบ้างเช่น การให้สายธารเดินสวนกับเณรดินตรงบันไดวัด หรือการให้สายธารเดินมาทักต้นไม้ที่บาร์ เป็นการเสิรมจุดให้เนื่อเรื่องดูย้อนแย้งมากยิ่งขึ้น

เลยวกวนกลับเข้ามาสู่ชื่อเรื่องที่ว่า It’s get better ? (ขออนุญาตเติมเครื่องหมายคำถาม เพราะรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ) ว่า ตลอดชีวิตของกะเทยนั้น มันเคย better หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กที่ต้องมีปัญหากับผู้ปกครอง หรือว่าวัยหนุ่มที่ต้องถูกคลุมถุงชน หรือบังคับแต่งงาน หรือวัยสุดท้ายของชีวิต ที่มีทุกอย่างพร้อม มีคลับของตนเอง แต่ก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับพ่อ หรือลูกได้ ใหนจะเรื่องเล่นกับไฟ ที่ต้องถูกเด็กหนุ่มหลอกลวงอีก แล้วชีวิตทั้งชีวิตนี้ของการเป็นกะเทย มัน get better ตรงใหน ?

เฮ้อ นะ เล่นแรงซะเหลือเกินนะแม่คุณ และเหมือนเดิมค่ะ พี่แกมักมีลูกเล่นกับชื่อตัวละครแบบนี้เสมอ ๆ ค่ะ ดังนี้ ดินโดนแสงก็ไม่อาจจะเกิดผลใด ๆ ให้งอกงามได้ —> แต่เมื่อเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็งอกจากดิน —> เป็นที่มาสายธาร ที่กลับมาเล่นกับไฟ และกร่อนหินให้ใจอ่อนลง —> และต้นไม้ก็ได้พบกับต้นหลิว ไม้ป่าเดียวกันว่างั้นเถอะ

 

10 ให้เต็ม 6 นะคะ

 

สิ่งที่ชอบ

  1. – ปั้นจั่น จะจอยไปใหนคะคุณ ถ้าได้ผัวแบบนี้ชั้นจะเลิกแรดละ
  2. – ป้าต่าย ฉ่ำไปใหน เก็บข้อมูลนานมั๊ยคะป้า ขอบอกว่าฉากลงทุนโชว์หน้าสดคือได้มาก หนูรับรู้ได้ถึงสังขารค่ะ และฉากพิจารณาหนังหน้าตัวเองก็เริดได้อีก
  3. – พลอตค่ะ ผูกแน่นจนไม่รู้จะว่าไง
  4. – เพลงค่ะ เบลทำได้ดีมาก
  5. – วิว ฉาก สวยมาก

สิ่งที่ไม่ชอบ

  1. – การตัดต่อค่ะ กระโดดได้อีกนะคะ ยิ่งตอนแรก ๆ ที่สลับไปมาที่วัดกะฉากป้าต่ายมันตัดกันมาก
  2. – เบลแสดงแข็งมากนะคะ สคริปต์มาก สลิ่มเองก็นะ
  3. – เจ๊กอล์ฟแอบกัดกะเทยเหนือใช่ใหมคะ เป็นตุ๊ดแล้วต้องไปบวช รู้สึกได้ถึงความใกล้ตัวค่ะ
  4. – การสรุปเนื้อเรื่องตอนท้าย ขาดความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ ส่วนนะ เช่น พอป้าต่ายโดนยิง แล้วตาหินรู้ได้ยังไงว่าป้าต่ายเป็นลูก ? แล้วตาหินมีเพียงอารมณ์ตกใจที่ลูกโดนยิง แต่ไม่มีฟีลที่ว่า ลูกฉันเป็นกะเทยแต่งหญิง ?? แล้วทำไมตาหินจึงรู้จักต้นไม้หลานตัวเองทันทีแรกพบ ??
  5. – พลอต มีทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบ เพราะมัดแน่นจนเราอึดอัด
  6. – ตอนจบ เบลอนิดหน่อย เพราะสลิ่มเองก็แสดงอารมณ์ออกมาน้อยกว่าที่ควร แล้วไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน เกี่ยวกับคลับของป้าต่าย ??
  7. – เชื่อว่าเจ๊กอล์ฟมีฉบับ limited edition อยู่ในมือแน่นอนค่ะ และคงเริดกว่านี้ เพราะฉบับที่ได้ดูในโรงที่เชียงใหม่นี้เหมือนกับเชือกที่ผูกปมแน่น แต่กลับคลายตัวอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ

ใส่ความเห็น

กุมภาพันธ์ 16, 2012 · 2:16 am